ค้นหาบล็อกนี้

14/5/62

วงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา ต้องการปลดปล่อยหรือครอบครองชาติต่างๆในเอเชียกันแน่

   อย่างที่ทุกคนทราบกันว่าในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองไปจนถึงในสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นหรือจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เรารู้จักกัน ได้พยายามเผยแพร่อิทธิพลเข้าไปในที่ต่างๆในเอเชียที่เป็นอาณานิคมของเหล่าชาติตะวันตก ซึ่งพื้นที่ที่ญี่ปุ่นเข้ารุกรานก็มีด้วยกันหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นจีนที่เสีย แมนจูเรีย ไต้หวัน ฮ่องกง ปักกิ่ง นานกิง ให้กับญี่ปุ่น และเข้าไปปลดปล่อยลาว เขมร เวียดนาม และพยายามปลดปล่อยอินโดนีเซีย มาเลเซีย และพม่า ให้หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของเหล่าชาติตะวันตกและจัดตั้งแนวป้องกันเพื่อไม่ให้ชาติตะวันตกเข้ามารุกรานอีก สิ่งนั่นก็คือ "วงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา" นั่นเอง



   ในช่วงก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มได้ไม่นาน ญี่ปุ่นเป็นชาติมหาอำนาจเพียงชาติเดียวที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย และด้วยความที่เป็นมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวของเอเชีย ทำให้ในญี่ปุ่นมีแนวคิดที่ว่า ชาวญี่ปุ่นคือเผ่าพันธ์ุที่เหนือกว่าชาติอื่นๆในเอเชียและมีองค์จักรพรรดิที่สืบเชื้อสายมาจากดวงอาทิตย์อย่างไม่ขาดสาย ทำให้องค์จักรพรรดิมีสิทธิ์และอำนาจอันชอบธรรมที่จะปกครองชาวเอเชียทั้งมวล

 ซึ่งความคิดสุดโต่งนี้ได้เริ่มต้นขึ้นในรัฐบาล ก่อนจะเผยแพร่ไปให้ประชาชนชาวญี่ปุ่น เพื่อให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นรักชาติเพื่อมาเป็นทหาร และเพื่อสร้างคติชาตินิยมที่ว่าญี่ปุ่นแข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย เพื่อปลุกความรักชาติและส่งเสริมให้ประชาชนมาเป็นทหาร เพราะตอนนั้นญี่ปุ่นได้ทำสงครามกับจีนอยู่ และเตรียมพร้อมที่จะสงครามโลกที่กำลังอุบัติขึ้นด้วย

งานเฉลิมฉลองแด่องค์จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ณ พระราชวังอิมพีเรียล ปี 1940
  โดยในช่วงก่อนสงครามโลกนโยบายการเชิดชูองค์จักรพรรดิเพื่อจัดตั้งวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพาไม่ได้เป็นในเรื่องการขยายดินแดนหรืออะไรทำนองนั้น แต่เป็นเพียงแค่การสร้างชาตินิยม ให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นรักชาติ และยอมตายถวายชีวิตเพื่อชาติ โดยเพิ่มหลักตามคติชินโตที่ชาวญี่ปุ่นนับถือเอาไว้ด้วย แต่ทว่าหลังจากการรบได้ดำเนินไป แล้วเข้าสู๋ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นโยบายชาตินิยมที่ญี่ปุ่นใช้จึงเริ่มปรับตัวเพื่อให้ความรักชาติของญี่ปุ่นไม่ขาดหายไป และเริ่มร่างโครงการจัดตั้งวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา โดยถือว่าญี่ปุ่นเป็นเจ้าเอเชีย และองค์จักรพรรดิฮิโรฮิโตะยิ่งใหญ่หาใครเปรียบได้ แผนการนี้ถูกเสนอให้รัฐบาลโดยนายพลฮะชิโร อะริตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่นในขณะนั้น โดยเริ่มใช้อย่างเป็นทางการพร้อมกับการบุกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อันประกอบด้วย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียและพม่า โดยมีวัตุประสงค์หลักๆคือการต่อต้านอิทธิพลของชาติตะวันตกในทวีปเอเชีย การปลดปล่อยอาณานิคมของชาติตะวันตกและการสร้างพันธมิตรเพื่อต่อต้านตะวันตก

  ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่า วงไพบูลย์ร่วมนี้ไม่ได้สร้างลัทธิชาตินิยมให้ญี่ปุ่นเป็นจุดประสงค์หลักอีกแล้ว แต่เป็นการต่อต้านอเมริกาและชาติคู่สงครามทางตะวันตกที่ญี่ปุ่นเปิดฉากสงครามด้วยนั่นเอง การผูกมิตรกับประเทศร่วมทวีปจึงเป็นการสร้างแนวร่วมเพื่อต่อต้านและสกัดอำนาจและอิทธิพลของตะวันตกในภูมิภาคนั่นเอง

โปสเตอร์ชวนเชื่อของพันธมิตรญี่ปุ่น

อาณาเขตของรัฐที่เข้าร่วมในวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา

  แต่อย่างไรก็ตาม ในจุดประสงค์หลักที่ต่อต้านชาวตะวันตก ยังมีจุดประสงค์ย่อยอีกหลายข้อ หนึ่งในนั้นก็คือความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ของทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องด้วยญี่ปุ่นขาดแคลนทรัพยากรในการทำสงครามเนื่องจากสหรัฐที่เป็นตัวส่งทรัพยากรน้ำมันและพวกเหล็กหยุดการส่งให้ญี่ปุ่น และส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงตอญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัดจากการทำสงครามกับจีนที่ต้องหยุดชะงักลง เพราะเหตุนี้ญี่ปุ่นจีงเบนเป้ามาแสวงหาทรัพยากรในภูมิภาคของเราเพื่อขัดเคลื่อนกองกำลังให้สามารถทำสงครามได้ต่อ นอกจากนี้ญี่ปุ่นก็เริ่มวางโครงการสร้างทางรถไฟที่ยิงยาวจากแหล่งทรัพยากรสำคัญต่างๆมายังญี่ปุ่น ทั้งมาเลเซีย ไทย พม่า แมนจูเรียก็เริ่มวางโครงการสร้างทางรถไฟ เพื่อดึงเอาทรัพยากรจากภูมิภาคเหล่านี้มาทำสงครามได้ต่อ

เส้นทางรถไฟไทย-พม่าส่วนนึงของโครงการรถไฟของญี่ปุ่น


เส้นทางรถไฟแมนจูเรีย-เกาหลี เส้นทางขนส่งทรัพยากรในดินแดนใต้อาณัติของญี่ปุ่น

โครงการสร้างทางรถไฟลงใต้ของญี่ปุ่น
โดยการรุกรานจีน เพื่อเชื่อมกับทางรถไฟในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  นอกจากญี่ปุ่นจะใช้วงไพบูลย์ร่วมนี้ในการแสวงหาทรัพยากรเพิ่มแล้ว ญี่ปุ่นยังใช้สิ่งนี้ในการแสวงหาดินแดนเพิ่มด้วย โดยการปลดปล่อยเหล่าอาณานิคมต่างๆให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของชาติตะวันตก แต่เข้าควบคุมสิ่งต่างๆในประเทศเหล่านั้นแทน จนเรียกได้ว่าจากเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก แต่กลับมาโดนญี่ปุ่นยึดต่อ ซึ่งการควบคุมสิ่งต่างๆของประเทศเอกราชเหล่านี้ก็เพื่อจะได้แสวงหาทรัพยากรได้เต็มที่ จะมีแค่พี่ไทยเราเท่านั้นที่ไม่โดนญี่ปุ่นเข้าควบคุมทุกอย่างเหมือนประเทศข้างบ้านเรา แต่เราต้องยอมตกอยู่ใต้อิทธฺพลของญี่ปุ่นในหลายเรื่อง รวมทั้งยังถูกญี่ปุ่นบังคับให้เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น และแกมบังคับให้เข้าร่วมกับฝ่ายอักษะด้วย

 จะเห็นเลยว่าจากการปลุกกระแสชาตินิยมในช่วงก่อนสงครามโลก ญี่ปุ่นเปลีี่ยนเป็นนโยบายกลืนกินชา ติอื่นๆในการแสวงหาทรัพยากรในด้านการทำสงคราม วงไพบูลย์ร่วมจากที่ผูกมิตรกับกลายเป็นฉากบังหน้าในการแสวงหาทรัพยากรของญี่ปุ่น แต่อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นก็ไม่สามารถแผ่ขยายอิทธิพลของตัวเองออกไปได้มกกว่านี้อีกแล้ว เพราะหลังจากปี 1941 ไปแล้ว ญี่ปุ่นก็เริ่มเพลี้ยพร่ำจากกองเรือสหรัฐที่หันมาโต้กลับได้ การรุกคืบจีนเพื่อลงไปในทางใต้ก็ติดๆขัดๆ กองทัพบกที่พยายามจะยึดอินเดียก็ติดอยู่ที่พม่า เกิดกบฏพยายามต่อต้านที่มาเลเซีย และเส้นทางตามโครงการทางรถไฟของญี่ปุ่นก็สร้างไม่เสร็จซักที ผลก็คือญี่ปุ่นกระท้อนกระแท้นในช่วงหลังสงคราม จนจบด้วยการพ่ายแพอย่างหมดสภาพ พื้นที่ที่ยึดไปทั้งหมดก็เสียไป และแทบไม่ได้อะไรตอบแทนมาเลย

 สรุปได้ว่าวงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา มันก็เป็นแหล่งทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ที่ใช้แนวร่วมปลดปล่อยอาณานิคมของชาติตะวันตกบังหน้าเท่านั้น แต่ญี่ปุ่นเป็นผู้รับผลประโยชน์ทั้งหมดที่ได้ในภูมิภาคนี้ไป รวมทั้งยังเป็นแผนนึงในการครองเอเชียของญี่ปุ่นอีกด้วย  

ถ้าผิดพลาดประการใด ผู้ทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และสามารถช่วยเสริมความถูกต้องได้ในคอมเม้นต์นะครับ



ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้น กดติตตามหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ




สนับสนุนผู้ทำบทความได้้ที่ TrueMoney Wallet 0642303213 (ขอขอบพระคุณมากครับ)


อ้างอิง
ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่น: หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ถึงก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา จากhttps://www.tci-thaijo.org
ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบูรพา พ.ศ. 2484-2488  จาก http://cuir.car.chula.ac.th
Greater East Asia Co-Prosperity Sphere. จากhttp://worldwar2headquarters.com
วงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา. จากhttps://th.wikipedia.org

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น