มีข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งเป็นข้อมูลที่แสดงและอธิบายถึงบทบาททางการเมือง และกลยุทธ์ที่ทางรัฐบาลโซเวียดได้เคยเข้าแทรกแทรงกิจการภายในของซินเจียง จีนและอาณาบริเวณเอเชียกลางในห้วงเวลาในยุคเริ่มต้นของสงครามเย็น (1944-1949)
เป็นเวลาหลายปีที่นักวิชาการจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นชาวจีน รัสเซียและชาติตะวันตกอื่น ๆ ได้ทำการโต้แย้งกันถึงข้อมูลขอบเขตในช่วงที่สหภาพโซเวียตให้การสนับสนุนและช่วยเหลือกับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวเติร์กในการสร้างสาธารณรัฐเตอร์กิสถานตะวันออกอย่างลับๆ และจัดตั้งเป็นรัฐเอกราชในช่วงปี 1944 - 1949
เป็นเวลาหลายปีที่นักวิชาการจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นชาวจีน รัสเซียและชาติตะวันตกอื่น ๆ ได้ทำการโต้แย้งกันถึงข้อมูลขอบเขตในช่วงที่สหภาพโซเวียตให้การสนับสนุนและช่วยเหลือกับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนชาวเติร์กในการสร้างสาธารณรัฐเตอร์กิสถานตะวันออกอย่างลับๆ และจัดตั้งเป็นรัฐเอกราชในช่วงปี 1944 - 1949
โดยทางโซเวียตตัดสินใจที่จะเปิดแผนการสนับสนุนกบฎซินเจียงในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1943 แม้ตอนนั้นโซเวียตจะเจอปฏิบัติการทางทหารของเยอรมันเข้าโจมตีในด่านหน้าของสงครามก็ตาม โดยในวันที่ 4 พฤษภาคม 1943 คณะกรรมการบริหารพรรคคอมมิวนิสต์หรือโปลิตบูโรมีมติให้ออกข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับ "ซินเจียง" ซึ่งเป็นมณฑลหนึ่งของจีนคณะชาติ โดยเนื้อหาในกฎหมายนั้นสรุปแแกมาได้ว่ารัฐบาลโซเวียตจะไม่ยอมทนรอการเจรจากับรัฐบาลท้องถิ่นซินเจียงของ Sheng Shicai อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งโซเวียตจะให้การสนับสนุนทุกรูปแบบกองกำลังต่อต้านจีนให้ทำการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยตัวเองกับรัฐบาลท้องถิ่น แม้ในช่วงนั้นรัฐบาลโซเวียจะไม่สามารถทำอะไรได้มากเพราะมันเป็นแค่แผนลับและที่สำคัญคือยังติดศึกกับนาซีเยอรมันอยู่ แต่เมื่อศึกฝั่งยุโรปจบลงโซเวียตก็เริ่มเปิดไพ่ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฎมากขึ้นโดยมีสภาโปลิตบูโรดูแลเรื่องนี้เป็นสำคัญ การดำเนินการต่างๆนี้ได้เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดมันก็ถึงจุดแตกหักระหว่างรัฐบาลจีนกับกลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดน
แม้ในตอนแรกจะมีการเจรจากันเป็นระยะๆ ระหว่างกลุ่มกบฎกับรัฐบาลจีนก็ตาม แต่ทางโซเวียตก็เชื่อว่าจีนไม่มีทางเคารพสัญญาที่ทำไว้แน่นอนและสุดท้ายก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มีการใช้กำลังอาวุธพยายามเข้ายึดสาธารณรัฐเตอร์กีสถานตะวันออกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และกันยายน 1947
เมื่อเป็นเช่นนั้นโปลิตบูโรได้ทำการส่งผู้ชำนาญการด้านต่างๆกว่า 60 คนเข้าไปในซินเจียง คนที่ส่งไปนั้นมีทั้งคนที่มีความรู้ทางด้านการเมือง การทหารและเศรษฐกิจ ซึ่งหลักฐานที่มีความสำคัญมากก็คือเอกสารที่เขียนแสดงถึงบทบาททางการเมืองระหว่างประเทศที่ทางโซเวียตนั้นมีคำสั่งต่างๆให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นควบคุมอุดมการณ์และแผนการตามที่วางแผนกันเอาไว้ เพื่อสนับสนุนกบฎแยกดินแดนของซินเจียง
เอกสารที่สำคัญที่เขียนถึงการเมืองโซเวียตในช่วงปี 1944 - 1949 ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังข้อมูลของสหพันธรัฐของรัสเซีย ส่วนมากมันจะถูกเขียนเก็บเอาไว้ในเอกสารลับของสตาลิน วยาเชสลาฟ โมโลตอฟ แล้วก็ลัฟเรนตีย์ เบรียา เอกสารลับที่บันทึกเรื่องของทั้งสามคนเอาไว้ เอกสารลับเหล่านั้นได้บันทึกในเชิงวิเคราะห์ถึงมาตรการและการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นเอกสารที่สามารถทำให้เรารู้เรื่องและทิศทางการเมืองของโซเวียตในภูมิภาคได้เพิ่มมาขึ้นอีกนิด
ในคลังข้อมูลของสหพันธรัฐรัสเซียนั้นนอกจากเรื่องซินเจียงแล้ว ยังมีเอกสารลับของกลุ่มประเทศในเอเชียกลางและเอเชียตะวันตก อย่างพวกอิหร่าน อาร์เซอร์ไบจาน ตุรกีในช่วง 1949 -1953 รวมอยู่ด้วยแต่ส่วนมากแล้วเอกสารลับที่เปิดเผยออกมาจะมีแต่เรื่องที่มาจากซินเจียงก็ตาม โดยโซเวียตมีข้อตกลงผลประโยชน์น้ำมัน การค้าและการแพทย์กับซินเจียง รวมทั้งประชาชาวโซเวียตยังสามารถเข้าออกซินเจียงได้แบบลับๆโดยไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย
มีเอกสารจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เขียนถึงการปลุกระดมและความเคลื่อนไหวของกบฎในตอนเหนือของซินเจียง โดยในเดือนธันวาคม 1944 ผู้นำระดับสูงของโซเวียตลัฟเรนตีย์ เบรียา ได้มอบหมายภารกิจพิเศษที่มีเนื้อหาหลักๆ ให้กบฎมุสลิมในซินเจียงปลุกระดมรวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ผู่คนที่เข้าร่วมกับกลุ่มกบฎ โดยในช่วงนั้นสตาลินก็ได้ส่งจดหมายลับหลายฉบับไปยังหัวหน้ากลุ่มแบกแยกดินแดนซินเจียงข้อมูลในนั้นยังคงถูกเก็ยไม่เปิดเผยในคลังข้อมูลของรัฐ แต่จากเนื้อหาเอกสารลับสามฉบับก่อนหน้านั้นก็ทำให้รู้ว่าหลังจากนั้นสตาลินก็เริ่มปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อต้านทหารจีนในช่วงการปราบกบฎซินเจียง
ข้อมูลสำคัญอื่นๆ ในช่วงที่โซเวียตพยายามเข้ายึดซินเจียงยังมีอยู่อีกมากที่เก็บรักษาอยู่ที่คลังข้อมูลรัฐ เอกสารสำคัญที่คาบเกี่ยวยุคนั้นที่น่าสนใจก็มีทั้งเอกสารลับของผู้บัญชาการตำรวจวยาเชสลาฟ โมโลตอฟ หรือจะเป็นของ รมต.การค้าระหว่างประเทศ อะนัสตัส มีโคยัน ก็น่านใจไม่แพ้กัน
เอกสารลับไม่สามารถสืบค้นออกมาได้หมด มันยังคงถูกเก็บเอาไว้ที่คลังข้อมูลรัฐนั่นต่อไป ข้อมูลเบื้องลึกของสตาลิน และผู้นำระดับสูงอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของโปลิสบูโรและหน่วยสืบราชการลับที่ทำงานของซินเจียง ตอนนี้ข้อมูลที่เปิดเผยได้ก็มีเพียงแค่นี้ที่เหลือก็คงต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละคนในการคิดต่อเอาเอง
อ้างอิง
https://www.wilsoncenter.org/blog-post/soviet-archives-and-xinjiang-1944-1949
 |
| การเจรจากันระหว่าง Ehmetjan Qasim หัวหน้ารัฐบาลเฉพาะกาลของสาธารณรัฐเตอรกีสถานตะวันออก กับเจียงไคเช็กประธานาธิบดีของจีนคณะชาติในปี 1946 |
แม้ในตอนแรกจะมีการเจรจากันเป็นระยะๆ ระหว่างกลุ่มกบฎกับรัฐบาลจีนก็ตาม แต่ทางโซเวียตก็เชื่อว่าจีนไม่มีทางเคารพสัญญาที่ทำไว้แน่นอนและสุดท้ายก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ มีการใช้กำลังอาวุธพยายามเข้ายึดสาธารณรัฐเตอร์กีสถานตะวันออกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และกันยายน 1947
เมื่อเป็นเช่นนั้นโปลิตบูโรได้ทำการส่งผู้ชำนาญการด้านต่างๆกว่า 60 คนเข้าไปในซินเจียง คนที่ส่งไปนั้นมีทั้งคนที่มีความรู้ทางด้านการเมือง การทหารและเศรษฐกิจ ซึ่งหลักฐานที่มีความสำคัญมากก็คือเอกสารที่เขียนแสดงถึงบทบาททางการเมืองระหว่างประเทศที่ทางโซเวียตนั้นมีคำสั่งต่างๆให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นควบคุมอุดมการณ์และแผนการตามที่วางแผนกันเอาไว้ เพื่อสนับสนุนกบฎแยกดินแดนของซินเจียง
เอกสารที่สำคัญที่เขียนถึงการเมืองโซเวียตในช่วงปี 1944 - 1949 ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในคลังข้อมูลของสหพันธรัฐของรัสเซีย ส่วนมากมันจะถูกเขียนเก็บเอาไว้ในเอกสารลับของสตาลิน วยาเชสลาฟ โมโลตอฟ แล้วก็ลัฟเรนตีย์ เบรียา เอกสารลับที่บันทึกเรื่องของทั้งสามคนเอาไว้ เอกสารลับเหล่านั้นได้บันทึกในเชิงวิเคราะห์ถึงมาตรการและการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเป็นเอกสารที่สามารถทำให้เรารู้เรื่องและทิศทางการเมืองของโซเวียตในภูมิภาคได้เพิ่มมาขึ้นอีกนิด
มีเอกสารจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เขียนถึงการปลุกระดมและความเคลื่อนไหวของกบฎในตอนเหนือของซินเจียง โดยในเดือนธันวาคม 1944 ผู้นำระดับสูงของโซเวียตลัฟเรนตีย์ เบรียา ได้มอบหมายภารกิจพิเศษที่มีเนื้อหาหลักๆ ให้กบฎมุสลิมในซินเจียงปลุกระดมรวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ผู่คนที่เข้าร่วมกับกลุ่มกบฎ โดยในช่วงนั้นสตาลินก็ได้ส่งจดหมายลับหลายฉบับไปยังหัวหน้ากลุ่มแบกแยกดินแดนซินเจียงข้อมูลในนั้นยังคงถูกเก็ยไม่เปิดเผยในคลังข้อมูลของรัฐ แต่จากเนื้อหาเอกสารลับสามฉบับก่อนหน้านั้นก็ทำให้รู้ว่าหลังจากนั้นสตาลินก็เริ่มปฏิบัติการทางทหารเพื่อต่อต้านทหารจีนในช่วงการปราบกบฎซินเจียง
ข้อมูลสำคัญอื่นๆ ในช่วงที่โซเวียตพยายามเข้ายึดซินเจียงยังมีอยู่อีกมากที่เก็บรักษาอยู่ที่คลังข้อมูลรัฐ เอกสารสำคัญที่คาบเกี่ยวยุคนั้นที่น่าสนใจก็มีทั้งเอกสารลับของผู้บัญชาการตำรวจวยาเชสลาฟ โมโลตอฟ หรือจะเป็นของ รมต.การค้าระหว่างประเทศ อะนัสตัส มีโคยัน ก็น่านใจไม่แพ้กัน
เอกสารลับไม่สามารถสืบค้นออกมาได้หมด มันยังคงถูกเก็บเอาไว้ที่คลังข้อมูลรัฐนั่นต่อไป ข้อมูลเบื้องลึกของสตาลิน และผู้นำระดับสูงอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของโปลิสบูโรและหน่วยสืบราชการลับที่ทำงานของซินเจียง ตอนนี้ข้อมูลที่เปิดเผยได้ก็มีเพียงแค่นี้ที่เหลือก็คงต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละคนในการคิดต่อเอาเอง
อ้างอิง
https://www.wilsoncenter.org/blog-post/soviet-archives-and-xinjiang-1944-1949
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น