ค้นหาบล็อกนี้

23/2/62

กรณีซะกุระดะมง ความพยายามลอบสังหารองค์จักรพรรดิโชวะ




   ความโกรธแค้นของชาวเกาหลีที่มีต่อระบบจักรพรรดิและรัฐบาลญี่ปุ่นมีมากขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเกาหลีต้องยอมร่วมลงนามในสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น–เกาหลี ในปีค.ศ.1910 เป็นผลให้ญี่ปุ่นเข้าครอบครองเกาหลีในฐานะอาณานิคมของญี่ปุ่นเป็นการถาวร ระบบกษัตริย์และรัฐบาลเกาหลีล่ม จักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ถูกเชิญให้ไปอยู่ที่เกาหลี ส่วนนักการเมืองในเกาหลีที่ไม่เห็นชอบกับญี่ปุ่นก็รวมตัวกันหนีไปตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นที่เซี่ยงไฮ้

ผู้ก่อตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นเกาหลี
     ซึ่งรัฐบาลผลัดถิ่นนี้พยายามปลดแอกเกาหลีจากญี่ปุ่นทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาหรือหาชาติอื่นๆมาเป็นตัวแทนคุยกับญี่ปุ่น แต่ที่แล้วมาก็ไม่มีใครที่สามารถจะเอาเกาหลีที่เป็นเอกราชและมีอธิปไตยในการปกครองกลับคืนมาได้ ทำให้ชาวเกาหลีบางส่วนได้รวมตัวกันและก่อตั้งขบวนการปลดแอกเกาหลี ซึ่งเป็นขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงชาวเกาหลีที่แยกตัวออกมาจากรัฐบาลผลัดถิ่นอีกทีนึง

  ซึ่งขบวนการปลดแอกเกาหลีนี้มีแผนการใหญ่ที่พยายามเคลื่อนไหวเพื่อกระทำตามแผนการนี้อยู่ตลอดเวลา แผนการนั้นคือความพยายามลอบสังหารองค์จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ ประมุขสูงสุดและจักรพรรดิของจักรวรรดิญี่ปุ่น ลี บง ชาง นักชาตินิยมชาวเกาหลีได้เป็นบุคคลสำคัญในเหตุการณ์ความพยายามลอบสังหารครั้งนี้ คือเขาต้องเป็นผู้ปาระเบิดมือใส่องค์จักรพรรดิในขบวนเสด็จตรวจกองทหาร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 มกราคม 1932 ซึ่งในความพยายามนี้ฝ่ายขบวนการปลดแอกเกาหลีมีการวางแผนมาอย่างดีท้ังการทราบกำหนดเวลา และพิธีการต่างๆจากหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น และมีแผนในการแทรกซึมและปลอมตัวเข้ากับทหารหลวงที่เตรียมเผ้ารับเสด็จอีกด้วย

ลี บง ชาง
   เมื่อมาถึงวันที่ 9 มกราคม ลี บง ชาง ได้กระทำตามแผนการที่กำหนดโดยได้ปลอมตัวเป็นตำรวจหลวงรอรับเสด็จองค์จักรพรรดิหน้าประตูซะกุระดะมง ของพระราชวังหลวงโตเกียว เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการสมเด็จพระจักรพรรดิพร้อมด้วยขบวนรถของราชวงศ์ ได้เสด็จออกจากพระราชวังหลวงโตเกียวผ่านทางประตูซะกุระดะมง ลี บง ชาง ได้ปฏิบัติตามแผนการทันทีโดยทำการปาระเบิดมือใส่ขบวนขององค์จักรพรรดิทันที แต่ระเบิดดันพลาดเป้าไม่โดนใคร และไม่ทำให้ใครบาดเจ็บ หลังจากความล้มเหลวในการลอบสังหาร ลี บง ชาง ก็ได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปอย่างรวดเร็ว


 ความพยายามลอบสังหารองค์จักรพรรดิในครั้งนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ของญี่ปุ่น ประชาชนชาวญี่ปุ่นโกรธแค้นชาวเกาหลีอย่างรุนแรงในเวลาไม่นานหลังจากนั้น นายอินุไก ซึโยชิ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในขณะนั้นประกาศลาออกเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่การลาออกของเขานั้นถูกองค์จักรพรรดิทัดทาน ทำให้เขาไม่ได้ลาออก ส่วนตัวนายลี บง ชาง ได้ถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมตัวได้ในวันที่ 30 กันยายนปีเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าเขาถูกศาลญี่ปุ่นตัดสินให้ถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

การจับกุมตัวนายลี บง ชาง
 ความพยายามลอบสังหารนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวในช่วงสมัยนั้น เพราะต่อจากนั้นก็มีความพยายามลอบสังหารจักรพรรดิโชวะอีกครั้งนึงแต่ก็ไม่สำเร็จเหมือนเช่นเคย เพราะถ้าสำเร็จองค์จักรพรรดิคงไม่น่ามีชีวิตมาจนจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ นอกจากนี้เหตุการณ์นี้ยังไปจุดชนวนทำให้เกิดความพยายามรัฐประหารรัฐบาลของอินุไกในวันที่ 15 พฤษภา และการยึดอำนาจของทหารในเหตุการณ์ 26 กุมภาในเวลาต่อมา


ถ้าผิดพลาดประการใด ผู้ทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และสามารถช่วยเสริมความถูกต้องได้ในคอมเม้นต์นะครับ




ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้น กดติตตามหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ




สนับสนุนผู้ทำบทความได้้ที่ TrueMoney Wallet 0642303213 (ขอขอบพระคุณมากครับ)

อ้างอิง
Sakuradamon Incident (1932). จากhttps://en.wikipedia.org
สิ้น!! สมมติเทพ "จักรพรรดิฮิโรฮิโตะ"(2561). จากhttp://www.komchadluek.net
1932: Lee Bong-chang, would-be Hirohito assassin(2014). จากhttp://www.executedtoday.com
เพจ Facebook ประวัติศาสตร์ สถาบันกษัตริย์
   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น