9/5/61

จักรพรรดิเกวาเตมอก จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งชนเผ่าแอชเท็ก

        หากจะพูดถึงแอชเท็ก คงไม่มีใครไม่รู้จักอาณาจักรโบราณ 200 กว่าปีที่อยู่ ณ บริเวณประเทศเม็กซิโกในปัจจุบัน ซึ่งมันเป็นอาณาจักรไม่สิ จักรวรรดิที่ยิ่งใหย่ที่สุดในภูมิภาคนั้นมาก่อน แต่ต่อมาเมื่อพวกสเปนเข้ามาล่าอาณานิคมบริเวณนั้น พวกสเปนได้ทำสงครามและนำพาโรคฝีดาษเข้ามาภายในอาณาจักร แอชเท็กสามารถต้านเอาไว้ได้ถึง 2 ปี ในที่สุดจักรพรรดิเกวาเตมอกจักรพรรดิองค์ที่ 11 ก็ยอมแพ้และในที่สุดอาณาจักรแห่งนี้กุถูกสเปนเข้าควบคุมในเวลาต่อมานั่นเอง



          จักรพรรดิเกวาเตมอกเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์เตนอชตีตลัน ราชวงศ์ที่ปกครองจักรวรรดิแอซเท็กมานานกว่า 200 ปี ซึ่งจักรวรรดิแอซเท็กและราชวงศ์เตนอชตีตลันก็มาถึงจุดจบในสมัยของพระองค์จากภัยรุกรานของพวกชาวสเปนที่หวังจะล่าอาณานิคมภายในอาณาจักร

จักรพรรดิเกวาเตมอก

พระราชประวัติช่วงต้นของพระองค์
         จักรพรรดิเกวาเตมอกน่าจะเป็นพระราชโอรสของจักรพรรดิอะวีตโซตล์ จักรพรรดิองค์ที่ 8 แห่งจักรวรรดิแอซเท็ก ส่วนปีที่พระองค์ประสูตินั้นน่าจะอยู่ราวปีค.ศ.1495 นอกจากนี้แล้วพระองค์ก็ยังมีญาติห่างๆ หรือจะเรียกว่าลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คนที่ขึ้นบัลลังก์แอซเท็ก นั่นก็คือจักรพรรดิมอนเตซูมาที่ 2 และจักรพรรดิกวิตลาวาก ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 9 และ 10 ในเวลาต่อมา

จักรพรรดิอะวีตโซตล์ พระราชบิดาของพระองค์
        เกวาเตมอกในวัยหนุ่มนั้นได้นำทัพในสงครามต่างๆ มากมายและเขายังขึ้นมามีอำนาจในราชสำนักที่สูงพอควรอีกด้วย องค์จักรพรรดิจึงแต่งตั้งพระองค์ให้เป็นแม่ทัพหรือที่ชาวแอซเท็กเรียกกันว่า ทอลคาเตวาติ (Tlacatecati) ซึ่งยศนี้เป็นยศที่มีอำนาจมากในราชสำนัก นอกจากนี้หลังจากที่พระองคืได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพและทำสงครามกับพวกชนเผ่าได้ เขาก็จะจับพวกคนของชนเผ่าที่รอดชีวิตมาได้มายังเตนอชตีตลันเพื่อเตรียมทำพิธีสังเวยมนุษย์ข้าศึกให้กับเทพเจ้าแห่งปวงชนชาวแอวเท็กอีกด้วย

ขึ้นสู่บัลลังก์
        ตั้งแต่สมัยของพระเจ้ามอนเตซูมาที่ 2 เป็นต้นมา จักรวรรดิแอซเท็กกำลังเริ่มสั่นคลอนจากภัยการล่าอาณานิคมของสเปน จักรวรรดิแอซเท็กจึงทำสงครามกับพวกสเปนที่พยายามยึดครองแอซเท็ก แต่ว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ต้องต่อสู่รบราฆ่าฟันกับพวกแอซเท็กเท่านั้น แต่ต้องสู้กับโรคร้ายที่พวกสเปนเอามาให้นั่นก็คือ โรคฝีดาษซึ่งเป็นโรคที่พวกแอซเท็กไม่มีภูมิต้านทานมาก่อน ดังนั้นด้วยพิษของโรคนี้ทำให้ประชาชนชาวแอซเท็กมากกว่าครึ่งต้องตายไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจักรพรรดิกวิตลาวากจักรพรรดิองค์ที่ 10 ซึ่งจากการสวรรคตขององค์จักรพรรดิ เหล่าขุนนางผู้มีอำนาจจึงเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิคนต่อไป ซึ่งเหล่าขุนนางได้เลือกเกวาเตมอกให้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไปในปีค.ศ.1520 ซึ่งถึงแม้จะมีพิธีราชาภิเษกที่เตนอชตีตลันแบบแต่ก่อน แต่ก็ไม่โอ่อ่าและยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อนเพราะจักรวรรดิทำสงครามกับพวกสเปนอยู่

เตนอชตีตลันเมืองหลวงของจักรวรรดิแอซเท็กในสมัยนั้น
        เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งเอซเท็ก พระองค์ก็ต้องทำสงครามเพื่อต่อต้านชาวสเปนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่สมัยของจักรพรรดิมอนเตซูมาที่ 2 ซึ่งพวกสเปนมีผู้นำในครั้งนี้ก็คือ เอร์นัน กอร์เตส ซึ่งเขาและกองทัพสเปนพยายามที่จะยึดเมืองเตนอชตีตลันให้ได้ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะตีเมืองให้แตกได้ จึงต้องไปขอเป็นพันธมิตรกับพวกเผ่าต่างๆ ที่เป็นอริหรือศัตรูของชาวแอซเท็กให้มาร่วมด้วย ในขณะเดียวกับจักรพรรดิเกวาเตมอกก็ได้เสริมกำลังทัพเพื่อปกป้องเตนอชตีตลัน และพยายามให้พวกสเปนถอยกับไปยังปากอ่าว จึงการสู้รบกันที่ โอทูมะ (Otuma) แต่ว่าในครามนี้กองกำลังของพวกแอซเท็กตั้งพ่ายแพ้ยับเยินให้กับพวกสเปน หลังจากจบการต่อสู้กอร์เตสจึสั่งให้กองทัพของเขาบุกไปยังเตนอชตีตลันในทันที

ภาพวาดการต่อสู้ที่โอทูมะ (Otuma)
เอร์นัน กอร์เตส 
        ส่วนทางเตนอชตีตลันก็พยายามเกณฑ์ทหารจากเผ่าต่างๆ ที่อยู่ใต้อาณัติของพระองค์เข้ามาเพื่อป้องกันเมือง แต่ว่าภายในจักรวรรดิไม่ได้มีเพียงแค่ความวุ่นวายจากสงครามเท่านั้น โรคฝีดาษที่กำลังระบาดอยู่ในจักรวรรดิก็ทำให้ราชสำนักวุ่นวายด้วย เพื่อทัพของกอร์เตสมาถึง และเริ่มพยายามตีเมืองให้ได้ จักรพรรดิเกวาเตมอกจึงพยายามตอบโต้ทุกวิถีทางเพื่อป้องกันจักรวรรดิให้ได้ แต่ว่าหลังจากนั้นเป็นระยะเวลาแค่เพียง 8 กว่าวัน ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ.1521 สเปนสามารถบุกเข้ามาทำลายเตนอชตีตลันได้ จักรพรรดิยอมจำนนและถูกจับฐานะเชลยศึก ซึ่งรวมทั้งเหล่าขุนนางต่างๆและคนสำคัญภายในพระราชวัง จักรวรรดิแอซเท็กได้ล่มสลายลงหลังจากนั้นไม่นาน

การบุกยึดเตนอชตีตลัน
เชลยศึก
           หลังจากที่องค์จักรพรรดิถูกพวกสเปนจับกุมในปี ค.ศ.1521 พระองค์อยู่ในฐานะเชลยศึกของพวกสเปน แต่ว่าองค์จักรพรรดิก็ยังคงยึดตำแหน่งจักรพรรดิอยู่แม้จะโดนควบคุมตัวอยู่ หลังจากนั้นพระองค์ก็ถูกจับมาทรมานด้วยวิธีก็คือ พระองค์จะถูกมัดอยู่ที่เก้าอี้และจากนั้นพวกสเปนก็จะนำถ่านร้อนๆ มาแนบที่ฝ่าเท้ากับฝ่ามือของพระองค์ ซึ่งสาเหตุการที่สเปรทรมานของพระองค์ก็มีบันทึกไว้หลายอย่างด้วยกัน บ้างก็ว่าเพราะพวกสเปนที่โลภอยากเอาทองคำของพวกแอซเท็กไปอยากรู้ที่ซ่อนทองคำอันมหาสารจึงทรมานพระองค์ แต่พระองค์ไม่ยอมปริปากบอกเลยแม้แต่อย่างเดียว บ้างก็ว่าพระองค์ทำให้พวกแอซเท็กก่อจลาจลขึ้นทำให้พวกสเปนต้องรีบปราบปรามและนำพระองค์ไปทรมานในข้อหากบฎ บ้างก็ว่าพระองค์พยายามหนีออกจากเมืองแล้วถูกจับได้ ซึ่งพระองค์ถูกจับในฐานะเชลยศึกประมาณ 4 ปี ในปีค.ศ.1525 กอร์เทสได้พาพระองค์และชาวแอซเท็กที่มีอำนาจลงไปที่ฮอนดูรัสแต่ว่า ก็มีคนมาบอกว่าเกวาเตมอกจะจับตัวกอร์เทสและก่อการจลาจลและสังหารพวกชาวสเปน กอร์เทสกลัวที่จะเกิดเหตุการ์ณแบบนั้น จึงสั่งประหารชีวิตพระองค์และพวกแอซเท็กหลายคนด้วยการแขวนคอ ในข้อหาต่อต้านกอร์เทสเพื่อตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ซึ่งการประหารพระองค์ทำให้เกวาเตมอกที่ยังถือสถานะจักรพรรดิต้องสิ้นสุดลง และยังเป็นจุดสิ้นสุดของราชวงศ์เตนอชตีตลันของจักรวรรดิแอซเท็ก อีกด้วย 


การทรมานจักรพรรดิเกวาเตมอกของชาวสเปน
          จุดจบของจักรวรรดิแอซเท็กที่เป็นจักรวรรดที่ยิ่งใหญ่ของภูมิภาคอเมริกากลาง นำไปสู่การแผ่อิทธิพลของชาวสเปนในภูมิภาคนี้แทน ซึ่งส่งผลให้เกิดการจัดการกับชนพื้นเมืองและทำลายวัฒนธรรมและศาสนาของชนพื้นเมืองอย่างรุนแรง แทนที่ด้วยคริสต์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิกที่มีความมั่นคงสืบต่อจนปัจจุบัน



อ้างอิง
http://www.ancient-origins.net
https://en.wikipedia.org
เพจ Facebook ประวัติศาสตร์ สถาบันกษัตริย์




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น