ค้นหาบล็อกนี้

13/11/61

พนมเปญแตก จุดเริ่มต้นของการปกครองอันโหดร้ายโดยเขมรแดง



  หลังการรัฐประหารในกัมพูชาปี 2513 ราชอาณาจักรกัมพูชาถูกแทนที่ด้วยสาธารณรัฐเขมร เจง เฮง ขึ้นเป็นประมุขแห่งรัฐของสาธารณรัฐเขมร ซึ่งจากการรัฐประหารครั้งนี้มันทำให้ความรุนแรงของสงครามกลางเมืองเขมรระหว่างคอมมิวนิสต์กับทุนนิยมทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก

  นอกจากปัญหาด้านความขัดแย้งกันระหว่างรัฐบาลเขมรกับเขมรแดงแล้ว ก็เกิดปัญหาภายในกันในรัฐบาลสาธารณรัฐเขมรด้วยเช่นกัน จนทำให้ในปี 2515 ลน นลทำการยึดอำนาจเจง เฮงและปลดเขาออกจากการเป็นประมุขแห่งรัฐ และลดอำนาจของเจ้าสิริมตะนายกรัฐมนตรีที่ขณะนั้นกำลังมีอำนาจมาก โดยการจุดชนวนการต่อต้านสิริมตะขึ้นมา และควบคุมตัวเขาไว้ในบ้านอย่างใกล้ชิด ก่อนที่ลน นล จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเขมรในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

ลน นล ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเขมร
    สถานการณ์ของสาธารณรัฐเขมรตั้งแต่ปี 2518 นั้นไม่ค่อยดีนัก เพราะกลุ่มของเขมรแดงภายใต้การนำของพล พต ได้เริ่มรุกเข้ามาใกล้พนมเปญเข้ามาทุกที และระบบเศรฐกิจภายในกรุงพนมเปญกำลังล่มเพราะ การขนส่งสินค้าและอาหารเข้าและออกทั้งทางน้ำและอากาศถูกตัดโดยพวกเขมรแดง พื้นที่การปลูกข้าวลดลงที่ 3 ใน 4 และการหาปลาน้ำจืดลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้ค่าอาหารในเมืองหลวงเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 เท่า ส่วนประชากรในพนมเปญก็เพิ่มสูงขึ้นเหมือนกัน โดยก่อนสงครามจะเริ่มพนมเปญมีประชากรอยู่ราว 600,000 คน แต่ในช่วสงครามพนมเปญรับผู้อพยพเพิ่มจนมีประชากรในเมืองกว่า 2,000,000 คน ประชากรที่เพิ่มและอาหารที่มีน้อยและราคาแพง ทำให้ประชากรประสบกับปัญหาความอดอยากมากขึ้น เท่านั้นไม่พอ ประชาชนส่วนมากตกงานและไม่มีงานทำ ที่พักและการดูแลทางการแพทย์มีน้อยลง ทำให้ผู้คนในเมืองเริ่มล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก



    ในวันที่ 1 เมษายน ลน นล ลาออกจากการเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเขมร เพราะคิดว่าถ้าตนไม่ได้เป็นผู้นำอาจทำให้สาธารณรัฐเจรจากับฝ่ายเขมรแดงได้ง่ายขึ้น แต่ในอีกแง่หนึ่งอาจจะเพราะกลัวเขมรแดงเลยหนีออกนอกประเทศไปก็ได้ โดยลน นลลี้ภัยไปอยู่ที่อินโดนีเซีย เซากัม คอย ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาล แต่สถานการณ์ในตอนนั้นเขมรแดงได้ทำการปิดการขนส่งทางแม่น้ำโขงแล้ว การขนส่งสินค้าเข้าออกถูกตัดขาด จนเมื่อสถานการณ์เริ่มเลวร้ายถึงขีดสุดเมื่อเขมรแดงเริ่มล้อมพนมเปญไว้แล้ว สหรัฐจึงได้เริ่มปฏิบัติการ Eagle Pull ในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2518 เพื่อทำการอพยพชาวอเมริกาและชาวต่างชาติออกจากกัมพูชาโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งในที่นี้รวมถึงชาวกัมพูชาบางส่วนและบุคคลสำคัญของกัมพูชาอย่าง เซากัม คอย และครอบครัวก็อพยพไปด้วย สถานทูตอเมริกาประจำกัมพูชาถูกปิดเพราะสหรัฐอพยพประชาชนของตัวเองออกไป ซึ่งในการอพยพครั้งนี้มีนักการเมืองสำคัญของกัมพูชาที่ปฏิเสธในการออกนอกประเทศอย่าง ลอง โบเรต ลน นน(น้องลน นล) และพระสีสุวัตถิ์ สิริมตะ ซึ่งต่อมาพวกเขาก็ถูกเขมรแดงประหารชีวิตหลังเขมรแดงยึดเมืองได้

ทหารสหรัฐเริ่มปฏิบัติการ Eagle Pull

เซากัม คอยและครอบครัว เดินทางมาถึงเรือ USS Okinawa
    ต่อมาอีก 5 วัน ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2518 กองทัพเขมรแดงได้บุกเข้ามาในเมืองหลวงพนมเปญหลังการต่อสู้กับทหารสาธารณรัฐมาอย่างยาวนาน รัฐบาลรักษาการของ สัก สุตสคาน ได้ย้ายไปอุดรมีชัยทางตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนจะล่มลงในที่สุด พนมเปญยอมจำนน เหล่าคนที่มีชื่อในบัญชีดำของเขมรแดงอย่าง สัก สุตสคาน ลอง โบเรต ลน นน และพระสีสุวัตถิ์ สิริมตะถูกประหารชีวิต หลังพนมเปญแตกเขมรแดงมีคำสั่งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเมืองออกไปอยู่ยังชนบท จนพนมเปญแทบจะกลายเป็นเมืองร้าง และเริ่มปีที่ศูนย์ขึ้น เพื่อรีเซ็ตและเริ่มประวัติศาสตร์ของเขมรใหม่ในที่สุด

แผนการบุกพนมเปญ
กองทัพเขมรแดงบุกเข้ากรุงพนมเปญ

เขมรแดงสั่งไล่ประชาชนออกจากเมืองหลวง
พนมเปญแทบจะเป็นเมืองร้างหลังผู้คนออกจากเมือง


  พล พต ได้ตั้งกัมพูชาประชาธิปไตยขึ้นมาแทนที่สาธารณรัฐเขมร ปกครองโดยรูปแบบคอมมิวนิสต์ โดยเน้นไปที่กรรมกรเป็นหลัก ซึ่งจากการแตกของกรุงพนมเปญและการที่สาธารณรัฐเขมรล่มนั้นเป็นจุดจบของสงครามกลางเมืองเขมรอันยาวนาน แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองอันเลวร้ายของเขมรแดงแทน

ถ้าผิดพลาดประการใด ผู้ทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และสามารถช่วยเสริมความถูกต้องได้ในคอมเม้นต์นะครับ


ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้น กดติตตามหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ



สนับสนุนผู้ทำบทความได้้ที่ TrueMoney Wallet 0642303213 (ขอขอบพระคุณมากครับ)


อ้างอิง
สงครามกลางเมืองกัมพูชา
เขมรแดงบุกยึดกรุงพนมเปญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น