12/7/61

สาธารณรัฐเอะโซะ ดินแดนแห่งผู้สนับสนุนโชกุนและซามูไร

 
  หลังจากสงครามโบะชิง หรือสงครามกลางเมืองญี่ปุ่น ระหว่างฝ่ายสนับสนุนจักรพรรดิและฝ่ายสนับสนุนโชกุนจบลงไป ด้วยความพ่ายแพ้ของโชกุนที่ยังคงยึดติดกับระบบเก่า ทำให้พวกฝ่ายโชกุน (ที่แม้โชกุนจะยอมแพ้ไปแล้ว) โดยเฉพาะเหล่าซามูไรต่างๆ หนีขึ้นไปบนเกาะฮกไกโดและจัดตั้งประเทศของตนเองขึ้นมาเพื่อให้ระบบซามูไรยังคงอยู่ ส่วนประเทศนี้จะเกิดอะไรขึ้นและทำไมไม่ปรากฏบนแผนที่โลก เชิญอ่านต่อข้างล่างนี้ได้เลยครับ







     หลังจากที่จบจากสงครามกลางเมืองญี่ปุ่น หรือที่พวกเราชาวบ้านรู้จักันในนาม สงครามโบะชิงแล้ว รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะหรือรัฐบาลเอโดะบาคุฟุก็ต้องสิ้นสุดลง พร้อมด้วยตำแหน่งโชกุนที่หายไปโดยไม่มีวันจะหวนกลับมา สถานะของจักรพรรดิกลับมามีพระราชอำนาจอย่างเต็มที่ จักรพรรดิเมจิเป็นจักรพรรดิพระองคืแรกที่ได้มีพระราชอำนาจในการบริหารบ้านเมืองอย่างเต็มที่ในช่วง 100 กว่าปี ส่วนโชกุนคนสุดท้ายอย่าง โทกูงาวะ โยชิโนบุ ก็ได้นั่งผักผ่อนกินกาแฟในบ้านส่วนตัวของเขาในโตเกียวไปตลอดชีวิตแทน

จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
   โดยถึงแม้ตัวโชกุนจะยอมแพ้และไม่คิดที่จะต่อกรกับองค์จักรพรรดิอีกต่อไปแล้ว แต่เหล่าผู้ที่ยังนิยมโชกุนอยู่กลับไม่ยอมแพ้ โดยพวกเขาได้หนีไปยังเกาะเอะโซะ(ฮกไกโด)โดยมีแกนนำคือ เอะโนะโมะโตะ ทะเกะอะกิ พลเรือเอกผู้จงรักภัคดีแก่ตระกูลโทกูงาวะ โดยก่อนที่พวกเขาจะไปตั้งรกรากที่เกาะเอะโซะ พวกเขาก็ยังไปปล้นเอาของมีค่าออกมาจากปราสาทโอซาก้าอีกด้วย

 เอะโนะโมะโตะ ทะเกะอะกิ
ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐเอะโซะ
 
       โดยเมื่อไปถึงทางเกาะเอะโซะแล้ว ทะเกะอากิก็ได้ส่งจดหมายตรงมาถึงองค์จักรพรรดิ ว่าขอให้เขาได้มีโอกาสพัฒนาเกาะฮกไกโดและรักษาขนบธรรมเนียมของซามูไรไว้ต่อไปโดยไม่ถูกรบกวน แต่อนิจจาเพราะซามูไรในตอนนั้นมีมากมายและทางรัฐบาลต้องจ่ายเงินเป็นค่าแรงให้ซามูไรทุกเดือน ซึ่งเป็นภาระที่หนัหนาต่อเศรฐกิจรัฐบาล พร้อมกันนั้นพวกเขายังเข้าไปเอาเหล่าของมีค่าในปราสาทโอซาก้าทำให้ จดหมายขอร้องอันนี้ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง

ตึกรัฐสภาเก่าของสาธารณรัฐเอะโซะ
      หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นไม่ยอมรับการรักษาและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมเก่าที่ทะเกะอากิเสนอไว้ ทำให้ทะเกะอากิชิงโอกาสจัดตั้งสาธารณรัฐเอะโซะบนเกาะฮกไกโดเลยในวันที่ 15 ธันวาคม 1868 โดยการจัดตั้งประเทศเป็นไปได้อย่างราบร่นพอสมควร เพราะส่วนมากประชากรบนเกาะนี้นั้นเป็นพวกชาวไอนุ ที่เดินทางเร่ร่อนไปวันๆ และมีชาวญี่ปุ่นที่น้อยทำให้การจัดตั้งรัฐบาลง่ายขึ้นมาก โดยสาธารณรัฐเอะโซะใช้ระบบการปกครองตามแบบอเมริกานั่นคือก็คือมีประธานาธิบดีในการบริหารประเทศ และประธานาธิบดีมาจากการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในเอะโซะนับเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และผู้ที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกก็คือ ทะเกะอากินั่นเอง

เหล่าผู้บริหารของสาธารณรัฐเอะโซะ
ธงชาติสาธารณรัฐเอะโซะ
        ภายในระยะเวลาอันสั้นเอะโซะพัฒนาเมืองฮะโกะดะเตะซึ่งเป็นเมืองหลวงให้เป็นเมืองสำคัญ และพัฒนาธงชาติเป็นของตัวเองโดยเป็นรูปดาวสีแดงวางอยู่บนพื้นสีน้ำเงิน สาธารณรัฐเอะโซะพัฒนาไปเป็นอันมาก และพยายามผลักดันตัวเองให้ชาติตะวันตกยอมรับการมีอยู่ของเอะโซะ แต่ว่าญี่ปุ่นเจ้าเก่าได้พยายามยึดเอะโซะเพื่อขจัดธรรมเนียมรูปแบบเก่าและเพื่อป้องกันตัวเกาะเองเพราะกลัวว่าเกาะจะตกไปอยู่ในความคุ้มครองอื่นที่ไม่ใช่ของญี่ปุ่น จนบานปลายเกิดยุทธนาวีฮะโกะดะเตะขึ้น ผู้นำทหารเรือฝ่ายเอะโซะ นาม Jules Brunet ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ได้นำเรือรบสัญชาติฝรั่งเศสเข้าป้องกันการปิดล้อมฮะโกะดะเตะของญี่ปุ่น แต่ถึงแม้เรือของฝ่ายเอะโซะจะมีมากกว่าแต่ด้วยความสามารถของ โทโจแม่ทัพผู้เก่งกาจของจักรวรรดิญี่ปุ่น ได้บัญชากองเรือรบจนมีชัยเหนือทัพฝ่ายเอะโซะ ส่งผลทำให้สาธารณรัฐเอะโซะที่พึ่งเกิดมาเพียงปีกว่าๆเท่านั้น ต้องสิ้นสุดลงในวันที่ 27 มิถุนายน 1869

ยุทธนาวีที่อ่าวฮะโกะดะเตะ ความพ่ายแพ้ของสาธารณรัฐเอะโซะ
     หลังจากความพ่ายแพ้ของสาธารณรัฐเอะโซะ เหล่าผู้นำและผู้มีบทบาทสำคัญของเอะโซะ บางส่วนก็ได้เข้าสู่ตะแลงแกง แต่บางส่วนก็แค่ไปชดใช้โทษในคุก ซึ่งทะเกะอากิก็ถูกจำคุกแค่ 2 ปี เท่านั้นก็ออกมาและรับใช้ราชการประเทศไปตลอดชีวิต ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ญี่ปุ่นหันมาสนใจเกาะเอะโซะมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกาะนี้ตกไปเป็นของชาติตะวันตก  ทางจักรพรรดิได้ให้พื้นที่ฟรีแก่ผู้ที่ไปตั้งถิ่นฐานที่เกาะ จนทำให้เกาะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นหลายเท่าภายในเวลาไม่นาน จากนั้นชื่อตัวเกาะก็เปลี่ยนจากเอะโซะเป็นฮกไกโด และเมืองแห่งนี้ก็ได้พัฒนามาเรื่อยๆ มาจนกระทั่งปัจจุบัน กลายมาเป็นเมืองเมืองหนึ่งที่มีผู้รู้จักไปทั่วโลก

ถ้าผิดพลาดประการใด ผู้ทำก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และสามารถช่วยเสริมความถูกต้องได้ในคอมเม้นต์นะครับ




ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้น กดติตตามหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ


อ้างอิง
Republic of Ezo(2561). จากhttps://en.wikipedia.org
สาธารณรัฐเอะโซะ(2561). จากhttps://th.wikipedia.org
THE REPUBLIC OF EZO: JAPANESE SEPARATISM OR EXPANSIONISM?(2556). จากhttps://thedailybeagle.net




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น