แต่เดิมนั้นบนคาบสมุทรเกาหลีถูกปกครองโดยราชวงศ์โซซ็อนของจักรวรรดิเกาหลี แต่จักรวรรดินี้กลับต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุุ่น ในฐานะรัฐอาณานิคมตั้งแต่ ค.ศ.1910 หลังญี่ปุ่นเป็นเจ้าแห่งเอเชียจากการพิชิตทั้งรัสเซียและจีนได้ ราชวงศ์โซซ็อนถูกลบล้าง อิทธิพลและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้พยายามเข้ามากลบวัฒนธรรมดั้งเดิมของเกาหลี ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 30 ปีที่เกาหลีอยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่น จนในที่สุดเมื่อญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลีก็เป็นอิสระจากญี่ปุ่น แต่ทว่ากลับเกิดปัญหาทางการเมืองครั้งใหญ่ระหว่างฝ่ายเหนือที่นิยมคอมมิวนิสต์และฝ่ายใต้ที่นิยมประชาธิปไตย เมื่อไม่สามารถตกลงเลือกได้มันก็บานปลายกลายมาเป็นสงครามเกาหลีในที่สุด และใช้เส้นขนานที่ 38 แบ่งประเทศเกาหลีที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันออกเป็นฝ่ายเหนือ และฝ่ายใต้ตั้งแต่บัดนั้น
หลังจากที่ญี่ปุ่นสามารถยึดจักรวรรดิเกาหลีได้ในปี ค.ศ.1910 ทำให้จักรวรรดิเกาหลีที่ปกครองโดยราชวงศ์โซซ็อนล่มสลาย และเกาหลีต้องตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น ญี่ปุ่นขูดรีดเอาทรัพยากรและศักดิ์ศรีของชาวเกาหลีไปมากมาย ชาวเกาหลีต้องลำบากยากแค้น อดอยาก ซึ่งมีชาวเกาหลีบางส่วนได้หนีไปเป็นทหารของทางจีนและโซเวียต และเฝ้าภาวนาว่าสักวันหนึ่งตนต้องเป็นอิสระ จนกระทั่งวันนั้นเป็นความจริง เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลีก็ได้เป็นอิสระจากญี่ปุ่น แต่ทว่าเกาหลีก็ต้องพบกับความแตกแยกออกเป็นสองฝ่ายจากกองกำลังโซเวียตที่สนับสนุนระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ในฝ่ายเหนือ และกองกำลังสหรัฐที่สนับสนุนประชาธิปไตยในฝ่ายใต้
หลังจากที่เกาหลีเป็นอิสระจากญี่ปุ่นแล้ว สหประชาชาติได้กำหนดให้เกาหลีเป็นดินแดนทรัสตี้ของสหประชาชาติเป็นเวลา 5 ปี โดยมีโซเวียตและอเมริกาดูแล โดยทั้งโซเวียตและอเมริกาที่เคยเป็นพันธมิตรกันมาก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่บัดนี้ทั้งสองประเทศกำลังที่จะให้เกาหลีใช้ระบอบการปกครองแบบเดียวกับของตนกลายเป็นชนวนเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยในคาบสมุทรเกาหลี จนในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ใช้เส้นขนานที่ 38 เป็นตัวแบ่งเกาหลีที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันออกจากกัน โดยฝ่ายเหนือปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ และฝ่ายใต้ปกครองโดยประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมพอตสดัม ซึ่งการแบ่งเกาหลีออกเป็นสองส่วนในครั้งนี้ชาวเกาหลีไม่ได้เข้าร่วมการประชุมและไม่ได้รับรู้เหตุการณ์ใดๆทั้งสิ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
หลังจากนั้นโซเวียตก็ได้พยายามหาผู้นำที่จะมาปกครองคอมมิวนิสต์ในเกาหลีเหนือ และในที่สุดก็ได้พบกับคิม อิล ซ็อง ซึ่งคิมนั้นเคยเป็นทหารสังกัตกองทัพแดงในการรบที่แมนจูเรีย ทางโซเวียตได้ให้คิมนั้นเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานล่าอาณานิคมเกาหลี แต่คิมนั้นกลับไม่ได้เป็นที่นิยมของประชาชนชาวเกาหลีมากพอ ทำให้ทางโซเวียตปลุกปั้นคิมให้โด่งดัง โดยสร้างอิทธิพลของคิมขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนนับถือเขาตามสไตน์สตาลิน ซึ่งเป็นเวลาที่นานมากก่อนที่จะประสบความสำเร็จในการกระทำครั้งนี้
ในปี ค.ศ.1947 สหประชาชาติได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของฝ่ายคอมมิวนิสต์และโซเวียต ทำให้การเลือกตั้งที่หวังจะรวมเกาหลีเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ส่วนมากจัดขึ้นในฝั่งใต้เท่านั้น ซึ่งผลจาการเลือกตั้งนั้นได้ตอกย้ำถึงการแบ่งแยกเกาหลีเข้าไปอีก เพราะรัฐบาลที่ได้จากการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งทำให้คิมและฝ่ายโซเวียตรวบรวมพรระคคอมมิวนิสต์ทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลีแล้วจัดตั้งเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี โดยใช้เส้นขนานที่ 38 เป็นตัวแบ่งเขตแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศนี้ออกจากกัน แต่ว่าสหประชาชาตินั้นยอมรับแค่สาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นฝ่ายใต้เท่านั้น ให้เป็นตัวแทนของประเทศเกาหลีในสหประชาชาติ
แม้จะมีการเจรจาและการประชุมหลานต่อหลายครั้งที่ว่าจะพยายามรวมเกาหลีทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่ทว่าการเจรจาทั้งหมดกับไม่ประสบความสำเร็จจากความไม่ลงรอยกันและหาข้อยุติไม่ได้ ทำให้เกิดการปะทะกันหลายต่อหลายครั้งในเส้นขนานที่ 38 ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเสริมกองทัพเผื่อจะเกิดสงครามขึ้น แต่ดุเหมือนว่ากองทัพของเกาหลีเหนือจะมีศักยภาพมากกว่าเกาหลีใต้ จากการสนับสนุนยุทโธปกรณ์จากโซเวียตและจีน และการฝึกรบและสอนการใช้กลยุทธ์ดองโจรโดยทหารจากทั้งโซเวียตและจีนเช่นเดียวกันด้วย
ความตึงเครียดของเกาหลีทั้งสองที่ต่างกันในเรื่องการปกครองทวีคูณความรุนแรงขึ้นอีก หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถเอาชนะพรรคก๊กมินตั๋งได้ในสงครามกลางเมืองจีน เป็นเหตุให้จีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์และสนับสนุนเกาหลีเหนือเต็มรูปแบบในช่วงปี ค.ศ.1949 กองทัพเกาหลีเหนือมีความเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้น แต่อีกฝ่ายหนึ่งในเกาหลีใต้ กองทัพของเขานั่นอ่อนแอลงมาก จนในที่สุด วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ.1950 เกาหลีเหนือและพันธมิตรคอมมิวนิสต์ได้นำกองทัพบุกเกาหลีใต้ ภายใต้การนำของคิม อิล ซ็อง ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ของเกาหลีเหนือเป็นการเริ่มต้นของสงครามเกาหลี สงครามแห่งความไม่ลงรอยกันระหว่างระบอบการปกครองคอมมิวนิสต์และประชาธิปไตยในคาบสมุทรเกาหลี
ในเวลาเพียงไม่นาน เกาหลีเหนือก็สามารถยึดเมืองโซลที่เป็นเมืองหลวงของเกาหลีใต้ได้ ทำให้คณะรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ต้องถอยร่นไปยังทิศใต้ และเกาหลีเหนือก็ยึดเมืองต่างๆของเกาหลีใต้ไปจนเหลือแค่ปูซานเท่านั่น เมื่อเป็นเช่นนั้นสหประชาชาติจึงประณามเกาหลีเหนือในการทำสงครามอย่างหนัก และโน้มน้าวประเทศพันธมิตรให้ส่งกองกำลังไปช่วยเกาหลีใต้ นำโดยกองทัพอเมริกาและชาติพันธมิตรนำทัพไปช่วยเกาหลีใต้ในปูซาน แต่คราวนี้ไม่ใช่มาต้านกำลังเกาหลีเหนือไม่ให้ยึดปูซานเท่านั้น แต่เป็นการนำทัพเพื่อยึดเกาหลีเหนือด้วย ผลของสงครามพลิกฝั่งอีกครั้งหนึ่ง กองทัพเกาหลีใต้สามารถยึดเมืองต่างๆ ทางใต้เส้นขนานที่ 38 คืนและข้ามฝั่งไปยังเกาหลีเหนือและยึดเมืองเปียงยางได้สำเร็จ พรรคแรงงานเกาหลีต้องหนีอย่างกระเซอะกระเซิงออกจากเปียงยางไปทางเหนือหรือไม่ก็ไปยังจีน กองกำลังของเกาหลีใต้ได้ยึดเมืองต่างๆ ของเกาหลีเหนือเกือบทั้งหมดภายในเวลาอันสั้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทางการประเทศจีนจึงส่งกองกำลังเข้ามสมทบและตีกองทัพเกาหลีใต้ออกจากดินแดนเกาหลีเหนืออีกครั้งนึง ซึ่งหลังจากนั้นสงครามก็ยืดเยื้อออกไปอีกหลายปีในที่สุด สหรัฐได้ใช้ระเบิดถล่มอาคารสำคัญของเกาหลีเหนือไปมาก จนในที่สุดในปี ค.ศ.1953 คิม อิล ซ็องลงนามในสนธิสัญญาหยุดยิง และทำข้อตกลงสงบศึกและตั้งเขตปลอดทหารเกาหลีขึ้น ส่วนผลของสงครามนั้้นไม่มีฝ่ายใด ได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วแบ่งพื้นที่ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้กันอย่างสมบูรณ์
หลังจากจบสงครามเกาหลี คิม อิล ซ็องก็เป็นบุคคลที่บริหารประเทศตลอดมา แม้จะมีการเจรจารวมเกาหลีอยู่บ่อยครั้งแต่ก็มักลงเอยด้วยการล้มเหลวตลอด เกาหลีเหนือได้เป็นประเทศที่ปกครองโดยคอมมิวนิสต์และแนวคิดจูเซรวมกันไป ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้นั้นก็เกิดความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาซึ่งไม่ใช่แค่เกาหลีใต้เท่านั้นที่ตึงเครียดกับเพื่อนบ้าน แต่มหาอำนาจทั่วโลกก็กำลังตึงเครียดกับปัญหาการทหารของเกาหลีเหนือ แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 50 ปีแล้วก็ตาม
ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้นหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ
สนับสนุนผู้ทำบทความได้้ที่ TrueMoney Wallet 0962566742 (ขอขอบพระคุณมากครับ)
อ้างอิง
History of North Korea(2561). จากhttps://en.wikipedia.org
สงครามเกาหลี(2561). จากhttps://th.wikipedia.org
กำเนิดเกาหลีเหนือ “รัฐปีศาจ”!?! ผู้นำตระกูลคิม-ผลผลิตโซเวียต(2556). จากhttps://mgronline.com
ประวัติและเรื่องราวของเกาหลี เหตุใดจึงแยกเป็นเกาหลีเหนือ-ใต้(2555). จากhttps://www.dek-d.com
เกาหลีเหนือ ประเทศคอมมิวนิสต์ที่ทั่วโลกจับตามอง จากhttps://hilight.kapook.com
หลังจากที่ญี่ปุ่นสามารถยึดจักรวรรดิเกาหลีได้ในปี ค.ศ.1910 ทำให้จักรวรรดิเกาหลีที่ปกครองโดยราชวงศ์โซซ็อนล่มสลาย และเกาหลีต้องตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นตั้งแต่นั้น ญี่ปุ่นขูดรีดเอาทรัพยากรและศักดิ์ศรีของชาวเกาหลีไปมากมาย ชาวเกาหลีต้องลำบากยากแค้น อดอยาก ซึ่งมีชาวเกาหลีบางส่วนได้หนีไปเป็นทหารของทางจีนและโซเวียต และเฝ้าภาวนาว่าสักวันหนึ่งตนต้องเป็นอิสระ จนกระทั่งวันนั้นเป็นความจริง เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาหลีก็ได้เป็นอิสระจากญี่ปุ่น แต่ทว่าเกาหลีก็ต้องพบกับความแตกแยกออกเป็นสองฝ่ายจากกองกำลังโซเวียตที่สนับสนุนระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ในฝ่ายเหนือ และกองกำลังสหรัฐที่สนับสนุนประชาธิปไตยในฝ่ายใต้
มะโมะรุ ชิเงะมิตซุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ลงนามตราสารยอมจำนนของญี่ปุ่น บนเรือยูเอสเอส มิสซูรี เป็นผลทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม |
หลังจากนั้นโซเวียตก็ได้พยายามหาผู้นำที่จะมาปกครองคอมมิวนิสต์ในเกาหลีเหนือ และในที่สุดก็ได้พบกับคิม อิล ซ็อง ซึ่งคิมนั้นเคยเป็นทหารสังกัตกองทัพแดงในการรบที่แมนจูเรีย ทางโซเวียตได้ให้คิมนั้นเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานล่าอาณานิคมเกาหลี แต่คิมนั้นกลับไม่ได้เป็นที่นิยมของประชาชนชาวเกาหลีมากพอ ทำให้ทางโซเวียตปลุกปั้นคิมให้โด่งดัง โดยสร้างอิทธิพลของคิมขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนนับถือเขาตามสไตน์สตาลิน ซึ่งเป็นเวลาที่นานมากก่อนที่จะประสบความสำเร็จในการกระทำครั้งนี้
คิม อิล ซ็อง |
แม้จะมีการเจรจาและการประชุมหลานต่อหลายครั้งที่ว่าจะพยายามรวมเกาหลีทั้งสองเข้าด้วยกัน แต่ทว่าการเจรจาทั้งหมดกับไม่ประสบความสำเร็จจากความไม่ลงรอยกันและหาข้อยุติไม่ได้ ทำให้เกิดการปะทะกันหลายต่อหลายครั้งในเส้นขนานที่ 38 ทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องเสริมกองทัพเผื่อจะเกิดสงครามขึ้น แต่ดุเหมือนว่ากองทัพของเกาหลีเหนือจะมีศักยภาพมากกว่าเกาหลีใต้ จากการสนับสนุนยุทโธปกรณ์จากโซเวียตและจีน และการฝึกรบและสอนการใช้กลยุทธ์ดองโจรโดยทหารจากทั้งโซเวียตและจีนเช่นเดียวกันด้วย
เส้นขนานที่ 38 แบ่งเกาหลีออกเป็นเกาหลีเหนือกับเาหลีใต้ ในช่วงปี ค.ศ.1950 |
ในเวลาเพียงไม่นาน เกาหลีเหนือก็สามารถยึดเมืองโซลที่เป็นเมืองหลวงของเกาหลีใต้ได้ ทำให้คณะรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ต้องถอยร่นไปยังทิศใต้ และเกาหลีเหนือก็ยึดเมืองต่างๆของเกาหลีใต้ไปจนเหลือแค่ปูซานเท่านั่น เมื่อเป็นเช่นนั้นสหประชาชาติจึงประณามเกาหลีเหนือในการทำสงครามอย่างหนัก และโน้มน้าวประเทศพันธมิตรให้ส่งกองกำลังไปช่วยเกาหลีใต้ นำโดยกองทัพอเมริกาและชาติพันธมิตรนำทัพไปช่วยเกาหลีใต้ในปูซาน แต่คราวนี้ไม่ใช่มาต้านกำลังเกาหลีเหนือไม่ให้ยึดปูซานเท่านั้น แต่เป็นการนำทัพเพื่อยึดเกาหลีเหนือด้วย ผลของสงครามพลิกฝั่งอีกครั้งหนึ่ง กองทัพเกาหลีใต้สามารถยึดเมืองต่างๆ ทางใต้เส้นขนานที่ 38 คืนและข้ามฝั่งไปยังเกาหลีเหนือและยึดเมืองเปียงยางได้สำเร็จ พรรคแรงงานเกาหลีต้องหนีอย่างกระเซอะกระเซิงออกจากเปียงยางไปทางเหนือหรือไม่ก็ไปยังจีน กองกำลังของเกาหลีใต้ได้ยึดเมืองต่างๆ ของเกาหลีเหนือเกือบทั้งหมดภายในเวลาอันสั้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ทางการประเทศจีนจึงส่งกองกำลังเข้ามสมทบและตีกองทัพเกาหลีใต้ออกจากดินแดนเกาหลีเหนืออีกครั้งนึง ซึ่งหลังจากนั้นสงครามก็ยืดเยื้อออกไปอีกหลายปีในที่สุด สหรัฐได้ใช้ระเบิดถล่มอาคารสำคัญของเกาหลีเหนือไปมาก จนในที่สุดในปี ค.ศ.1953 คิม อิล ซ็องลงนามในสนธิสัญญาหยุดยิง และทำข้อตกลงสงบศึกและตั้งเขตปลอดทหารเกาหลีขึ้น ส่วนผลของสงครามนั้้นไม่มีฝ่ายใด ได้ชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วแบ่งพื้นที่ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้กันอย่างสมบูรณ์
คิม อิล ซ็องลงนามข้อตกลงหยุดยิง สงครามเกาหลี ปี ค.ศ.1953 |
ผู้แทนลงนามความตกลงการสงบศึกเกาหลีในพันมุนจอม |
ถ้าชอบบทความของเราอย่าลืมคอมเม้นหรือกดแชร์บทความของเรานะครับ
สนับสนุนผู้ทำบทความได้้ที่ TrueMoney Wallet 0962566742 (ขอขอบพระคุณมากครับ)
อ้างอิง
History of North Korea(2561). จากhttps://en.wikipedia.org
สงครามเกาหลี(2561). จากhttps://th.wikipedia.org
กำเนิดเกาหลีเหนือ “รัฐปีศาจ”!?! ผู้นำตระกูลคิม-ผลผลิตโซเวียต(2556). จากhttps://mgronline.com
ประวัติและเรื่องราวของเกาหลี เหตุใดจึงแยกเป็นเกาหลีเหนือ-ใต้(2555). จากhttps://www.dek-d.com
เกาหลีเหนือ ประเทศคอมมิวนิสต์ที่ทั่วโลกจับตามอง จากhttps://hilight.kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น