จักรพรรดิจิมมุ ปฐมกษัตริย์แห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย

            จักรพรรดิจิมมุ หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ คะมุยะมะโตะ อิวะเระบิโกะ โนะ มิโกะโตะ (Kamu-yamato Iware-biko no mikoto) เป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งญี่ปุ่นและราชวงศ์ยะมะโตะแห่งญี่ปุ่นด้วย ซึ่งคาดว่าพระองค์น่าจะเริ่มปกครองญี่ปุ่นในช่วง 660 ปีก่อนคริสตการ ซึ่งช่วงเวลาที่พระองค์ปกครองอยู่ในขณะนั้นญี่ปุ่นยังอยู่ในยุคโจมงอยู่นั่นเอง (ยุคโจมงกินเวลาตั้งแต่ 14000 - 300 ปีก่อนคริสตการ)

ตำนานแห่งชาติกำเนิด
         จากตำนานได้กล่าวไว้ว่า จักรพรรดิจิมมุได้สืบเชื้อสายมาจากเทพแห่งดวงอาทิตย์อะมาเทราสึ โดยอะมาเทราสึได้ส่งหลานของตัวเอง นินิงิ โนะ มิโกะโตะ ไปยังโลกมนุษย์ ซึ่งนินิงิเขากับพบรักกับหญิงคนหนึ่งชื่อว่า โคะโนะฮะนะ ซะกุระ ฮิเมะ และได้แต่งงานกับเธอ โดยนินิงิมีบุตรด้วยกันสามคน ซึ่งหนึ่งในบุตรของนินิงิคนหนึ่งนามว่า ฮิโกะโฮะโฮะเดะมิ โนะ มิโกะโตะ (ปู่ของจิมมุ)ได้ไปแต่งงานกับ โทะโยะตะมะ ธิดาของเทพรีวจิง เทพแห่งท้องทะเลตามความเชื่อของญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขามีบุตรด้วยกันคนหนุ่งคือ  ฮิโกะนะงิซะ ทะเกะอุงะยะ ฟุกิอะเอะซุ โนะ มิโกะโตะ แต่ว่าบุตรที่เกิดมาของพวกเขาไม่ได้รับการดูแลที่ดีอย่างที่ควร ทะมะโยะริ ฮิเมะ น้องสาวของโทะโยะตะมะ จึงเลี้ยงดูเขาแทนพี่สาว และในเวลาถัดมาพวกเขาก็ได้แต่งงานกัน และมีบุตรด้วยกันสี่คน ซึ่งบุตรคนสุดท้องนั้นก็คือ คะมุยะมะโตะ อิวะเระบิโกะ โนะ มิโคะโตะ หรืออีกชื่อนึงก็คือจักรพรรดิจิมมุนั่นเอง

การอพยพและตั้งอาณาจักร

จิมมุเห็นนกศักดิ์สิทธิ์หรือที่เรียกว่าอีกาสามขา บินผ่านในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางไปทางตะวันออก

           ตามพงศาวดารญี่ปุ่นสองฉบับ นั้นคือ โคะจิกิ และ นิฮงโชะกิ ได้บันทึกไว้ว่า บรรดาเหล่าพี่น้องในตระกูลของจิมมุนั้น เกิดในนากะชิโอะทางตอนใต้ของคิวชู ซึ่งบรรดาพี่น้องของจิมมุนั้นก็ำด้ตัดสินใจเดินทางไปในทิศตะวันออกเพื่อไปหาที่ตั้งอาณาจักรของตนที่มีความอุดมสมบูรณ์กว่าที่แห่งนี้ โดยเขาได้เดินทางไปทางตะวันออกเรื่อยๆ จนถึงเมืองแห่งหนึ่งที่มีประมุขท้องถิ่นที่มีพระนามว่า นะงะซุเนะฮิโกะ จากนั้นพวกเขาก็ได้รบกันซึ่งผลของสงครามนี้ก็คือ ฝ่ายของจิมมุพ่ายแพ้ไปและยังต้องสูญเสียพี่ชายของตนไปในการรบด้วย  
            หลังจากสงครามครั้งนั้นจิมมุก็ได้เห็นอีกาสามขาอีกครั้ง โดยมาบินไปในทางทิศตะวันออก ทำให้จิมมุคิดว่าที่ตนพ่ายแพ้สงครามนั้นเป็นเพราะเราหันหน้าทำสงครามไปในทิศตะวันตก เหล่าเทพเจ้าจึงไม่อวยพรให้ทางฝ่ายของเราเป็นฝ่ายชนะ เพราะฉะนั้นจิมมุจึงทำสงครามกับนะงะซุเนะฮิโกะอีกครั้งโดยคราวนี้ฝ่ายของจิมมุได้หันหน้าไปในทิศตะวันออก เพื่อให้เหล่าเทพเจ้าประทานพรให้ชนะ ซึ่งผลของสงครามคั้งนั้นจิมมุเป็นฝ่ายชนะ เขาจึงตั้งอาณาจักรขึ้นมาปกครองแผ่นดนญี่ปุ่น และสถาปนาตนเองขึ้นเป็น จักรพรรดิจิมมุ ปฐมกษัตริย์แห่งญี่ปุ่น

ภาพวาดจักรพรรดิจิมมุถือคันธนูและ
มีอีกาสามขาเกาะอยู่ วาดโดย สึคิโอะคะ โยะชิโทะชิ

ควาเคารพหน้าถือต่อพระองค์
                หลังการปฏิรุปเมจิแล้ว ราชสำนักญี่ปุ่นได้จัดตั้งวันที่ 11 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันคิเก็นเซ็ตซุ หรือวันที่ระลึกถึงขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดิจิมมุเป็นวันสำคัญของชาติวันหนึ่งเลยทีเดียว แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง วันที่ระลึกการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ก็ถูกมองว่าเป็นแนวคิดถึงระบบจักรวรรดิเก่า วันแห่งนี้จึงถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ.1948 แต่ในที่สุดรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ฟื้นฟูวันนี้ขึ้นมาอีกครั้งในปี ค.ศ.1966 โดยถือว่าเป็น"วันชาติญี่ปุ่น"นั่นเอง

การมีตัวตนของพระองค์
                 นักวิชาการสมัยใหม่หลายคนในญี่ปุ่น ได้แย้งถึงการมีตัวตนของพระองค์ เพราะว่ามีหลักฐานที่น้อยและกาลเวลาที่ยาวนานตั้งสมัยนั้นถึงปัจจุบัน และไม่ใช่สมัยของพระองค์อย่างเดียว สมัยของจักรพรรดิญี่ปุ่น 9 พระองค์แรก ก็ถูกเชื่อว่าไม่มีตัวตนเหมือนกัน นักวิชาการส่วนมากจึงเรียกสมัยของจักรพรรดิทั้ง 9 พระองค์นั่นว่า สมัยจักรพรรดิในตำนาน นั่นเอง

สถานที่ที่ถูกเชื่อว่าเป็นสุสานของพระองค์ ตั้งอยู่ที่เมืองคาชิฮาระ จังหวัดนะระ

 ตามพงศาวดารโคะจิกิ พระองค์สวรรคตประมาณปี 585 ปีก่อนคริสตการ ขณะพระชนม์มายุ 126 พรรษา พระศพและสุสานของพระองค์ถูกสันนิษฐานว่าตั้งอยู่ที่เมืองคาชิฮาระ จังหวัดนะระ ของประเทศญี่ปุ่น



อ้างอิง
https://th.wikipedia.org
https://www.britannica.com