17/4/61

ฟาโรห์ดเจอร์ ผ้ถูกเชื่อว่าเป็นเทพโอซีริส

       ฟาโรห์ดเจอร์คือฟาโรห์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ที่ 1 แห่งอียิปต์โบราณ ซึ่งพระองค์เป็นพระราชโอรสของฟาโรห์ฮอร์-อฮา แล้วพระองคืเกี่ยวอะไรกับเทพโอซิลิสละและทำไมผู้คนถึงเคยเชื่อว่าเขาเป็นเทพโอซีริสละ ถ้าอยากรู้เชิญอ่านต่อจากบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ

หินที่สลักพระนามของดเจอร์ไว้
พระราชประวัติ
         ฟาโรห์ดเจอร์เป็นพระราชโอรสของ ฮอร์-อฮากับพระสนมเคนเทป พระองค์ขึ้นเป็นฟาโรห์ต่อจาก
พระราชบิดาของพระองค์ฮอร์-อฮา โดยพระองค์เป็นฟาโรห์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ที่ 1 โดยระยะเวลาครองราชย์นั้นของพระองค์นั้นยังไม่ทราบแน่ชัดเพราะมีความขัดแย้งกันอยู่ ระหว่างบันทึกของมาเนโท นักบวชอียิปต์โบราณที่มีชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรศที่ 3 ก่อนคริสตการได้บันทึกว่าพระองค์ครองราชย์นาน 57 ปี แต่จากหินปาเล่โม ที่ Toby Wilkinson วิจัยอยู่ทำให้ทราบได้ว่า พระองค์ครองราชย์นาน 41 ปีเท่านั้นซึ่งหลักฐานทั้งสองชิ้นนี้ก็ยังขัดแย้งกันอยู่นั่นเอง
        นอกจากนี้ในสมัยของพระองค์ยังเริ่มมีความขัดแย้งระหว่างชาวนูเบีย ลิเบียและพวกซีไนทำให้ต้องทำสงครามอยู่บ่อยครั้ง แต่อียิปต์ในตอนนั้นก็ยังคงมีความเป็นปึกแผ่นและมั่นคงอยู่


พระนาม
      ตามบันทึกรายชื่อฟาโรห์ที่อไบดอส ได้บันทึกชื่อของฟาโรห์องค์ที่สามแห่งราชวงศ์ที่ 1 ว่า อิติ(Iti) และบันทึกชื่อฟาดรห์ของตูลิน ชื่อของพระองค์ได้เขียนเริ่มต้นด้วยคำว่า It... และบันทึกของมาเนโทได้บันทึกชื่อของพระองค์ว่า Uenéphes

สุสาน
       สุสานของพระองค์ก็เป็นแค่หนึ่งในสุสานทั่วๆไปในช่วงยุคต้นราชวงศ์ ซึ่งสุสานของพระองค์อยู่ที่  Umm el-Qa'ab โดยสุสานของพระองค์คือสุสาน O ซึ่งที่นั่นก็พบโครงกระดูกอีกกว่า 300 กว่าโครง ซึ่งก็เป็นความเชื่อในสมัยนั้นที่ว่าเมื่อฟาโรห์สวรรคตก็จะต้องนำข้าทาสบริวารไปฝั่งพรอมพระสพฟาโรห์ด้วยเพื่อรับใช้พระองค์ในโลกหลังความตาย นอกจากนี้ในสุสานของพระองค์ยังพบจารึกที่ทำจากงาช้างที่สลักพระนามนีทโฮเตป(พระอัยยิกาของฟาโรห์ดเจอร์)และงาช้างที่สลักข้อความต่างๆอีกด้วย
สุสาน O สุสานของฟาโรห์ดเจอร์

สุสานแห่งโอซีริส                                                                                      
     ความเชื่อที่ว่าสุสานของฟาโรห์ดเจอร์ว่าเป็นสุสานแห่งเทพโอซีริส เทพแห่งความตายตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ มาจากที่ว่านักโบราณคดีที่มีชื่อว่า Emile Amelineau ได้เข้ามาสำรวจสุสานในช่วงเดือนมกราระหว่างวันที่ 1 ถึง 12 มกราคม ค.ศ.1898 ซึ่งพวกเขาได้เจอกับรุปปั้นใหญ่ที่ทำมาจากหินบะซอลต์สีดำและเตียงนอนที่คล้ายกับที่พบในสุสานของตุตันคามุน อีก 2 เตียง หลังจากนั้นเขาก็ไปสำรวจภายในห้อง D พวกเขาก็ได้พบเจอกับรูปปั้นของเทพโอซีริสมากมายและยังพบหัวกระโหลกอันหนึ่งในห้องแห่งนั้น ซึ่ง Emile Amelineau ก็ได้เชื่อเลยว่าหัวกะโหลกนั้นเป็นของเทพโอซีริสและเข้าได้ค้นพบสุสานแห่งเทพโอซีริสแล้ว

 Emile Amelineau ผู้เชื่อว่าค้นพบสุสานแ่งเทพโอซีริส
         แต่ถึงแม้เขาจะเชื่อว่าเจอสุสานแห่งโอซีริสแล้ว แต่ทางการก็ไม่ยอมรับการค้นพบของเขา จนต้องตรวจสอบรายละเอียดต่างอีกมากมาย และในเวลาต่อมาราวปี ค.ศ.1900  William Flinders Petrie ได้เข้าไปทำการสำรวจห้องนั้นอีกครั้ง และได้พบสิ่งที่ Amelineau มองข้ามไปนั้นก็คือ มัมมี่แขนที่มีเครื่องประดับใส่เอาไว้อยู่ และเครื่องประดับนั่นก็มีมากมาย ซึ่งมีทองคำบางส่วนได้สลักชื่อว่า โฮรัส ดเจอร์ ซึ่งทำให้ Petrie เชื่อว่านี้ไม่ใช่สุสานของเทพโอซีริสแต่เป็นของฟาโรห์ดเจอร์ และการตรวจสอบกระโหลกศรีษะที่ Amelineau พบในห้อง D นั้น จากการตรวจสอบเป็นเวลานานก็พบว่าเป็นเพียงกระโหลกศรีษะของผู้หญิง แต่ถึงแม้จะมีหลักฐานมากมายที่กล่าวไว้ว่า สุสานที่ Amelineau ค้นพบจะเป็นของดเจอร์ไม่ใช่ของเทพโอซีลิส แต่ว่า Amelineau ก็ยังไม่เปลี่ยนความคิดของตนเองที่ว่าสุสานที่เขาค้นพบเป็นของเทพเจ้าโอซีริส


อ้างอิง
https://en.wikipedia.org
https://writer.dek-d.com
http://www.touregypt.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น